เมนู

นับได้ 51 ปี แม้สมณะเป็นไปในประเทศแห่ง
ธรรมเป็นเครื่องนำออก ไม่มีในภายนอกแต่
ธรรมวินัยนี้.

สมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มี ลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้. สุภัททะ
ภิกษุเหล่านั้นพึงอยู่โดยชอบ โลกไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.

ติตถิยปริวาส



[140] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว สุภัททปริพาชก
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่ม
แจ้งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก บุคคลหงาย
ของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด
ผู้มีจักษุจักเห็นรูปฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรม โดยอเนก
ปริยายฉันนั้นเหมือนกัน ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม
พระภิกษุสงฆ์ว่า เป็นสรณะ ข้าพระองค์พึงได้บรรพชา อุปสมบทในสำนักของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสุภัททะ ผู้ใดเคยเป็นอัญญเดียรถีย์
หวังบรรพชาอุปสมบทในธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นต้องอยู่ปริวาส 4 เดือน. ต่อล่วง 4
เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายมีจิตยินดีแล้ว จึงให้บรรพชาอุปสมบทเพื่อความเป็น
ภิกษุ แต่ว่าเรารู้บุคคลต่างกันในข้อนี้. สุภัททปริพาชกกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ หากผู้เคยเป็นอัญญเดียรถีย์ หวังบรรพชาอุปสมบทในธรรม
วินัยนี้ จะต้องอยู่ปริวาส 4 เดือน ต่อล่วง 4 เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายมีจิต
ยินดีแล้ว จึงให้บรรพชาอุปสมบทเพื่อความเป็นภิกษุ ข้าพระองค์จักอยู่ปริวาส
4 ปี ต่อล่วง 4 ปีแล้ว ขอภิกษุทั้งหลายมีจิตยินดีแล้ว จงให้บรรพชาอุปสม-
บทเพื่อความเป็นภิกษุเถิด.

สุภัททสำเร็จอรหัต



ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อน
อานนท์ ถ้าเช่นนั้น เธอจงให้สุภัททปริพาชกบวชเถิด. ท่านพระอานนท์ทูลรับ
พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. สุภัททปริพาชกได้กล่าวกะท่านพระ-
อานนท์ว่า ดูก่อนท่านอานนท์ผู้มีอายุ ลาภของท่าน ท่านได้ดีแล้ว ที่พระศาสดา
ทรงอภิเษกด้วยอันเตวาสิกาภิเษก ที่เฉพาะพระพักตร์ในพระศาสนานี้. สุภัทท-
ปริพาชก ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. ก็ท่าน
สุภัททะอุปสมบทแล้วไม่นาน หลีกออกไปอยู่แต่ผู้เดียวเป็นผู้ไม่ประมาท มี
ความเพียร มีตนส่งไปแล้วอยู่ไม่ช้านานนัก ทำให้แจ้งที่สุดพรหมจรรย์อัน
ยอดเยี่ยมที่กุลบุตรทั้งหลาย ผู้มีความต้องการออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
โดยชอบด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง ในทิฏฐธรรมเข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้
มี. ท่านสุภัททะรูปหนึ่งได้เป็นพระอรหันต์. ท่านเป็นสักขิสาวกองค์สุดท้าย
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
จบภาณวารที่ 5

ประทานโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์



[141] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูก่อนอานนท์ บางที่พวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วง
แล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี
วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัย
อันนั้นจักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเราดูก่อนอานนท์ บัดนี้
พวกภิกษุเรียกกันและกันด้วยวาทะว่า อาวุโสฉันใด โดยล่วงไปแห่งเรา ไม่ควร